แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าถาวรญี่ปุ่นแบบคนทำงาน
นี้เราอยากจะมาเล่าประสบการณ์ทั้งหมดทั้งมวลในการขอวีซ่าถาวรของเราให้เพื่อนๆฟังค่ะ ยาวหน่อยนะคะ
ก่อนอื่นบอกก่อนว่าเราประวัติของเราคร่าวๆคือ
เรามาญี่ปุ่นตั้งแต่ปี2008ค่ะ เรียนภาษา1ปีครึ่งและต่อเซมมงอีก2ปี
จากนั้นก็ทำงานในสายที่เราเรียนจบเซมมงมาค่ะ
ซึ่งสายงานเรา รายได้ค่อนข้างน้อยกว่าสายงานปกติ
เราขอวีซ่าถาวรแบบคนธรรมดาที่อยู่ญี่ปุ่นเกิน10ปีและทำงานจ่ายภาษีครบ5ปี ไม่ได้ขอแบบhigh skilled ขอจากวีซ่าแต่งงานนะคะ เพราะฉะนั้นเราจะไม่มีความรู้ของการขอวีซ่าแบบอื่นค่ะ
ก่อนเราจะไปขอวีซ่านั้นเราได้ปรึกษาทนายหลายแห่งเพื่อความมั่นใจ
ซึ่งรอบแรกที่เราไปนั้น เป็นปีที่เราอยู่ครบ10ปีพอดี
และก็ได้พบความจริงหลายๆอย่างซึ่งเป็นสัจธรรมและปัญหาในชีวิตเรา คือเหตุผลหลักๆที่มีวีซ่าถาวรคือญี่ปุ่นต้องการหาคนมาช่วยจ่ายภาษีค่ะ
เพราะฉะนั้นเงื่อนไขในการพิจารณาวีซ่าหลักๆๆๆเลยคือ รายได้ และการจ่ายภาษี(แน่นอนว่ายังมีเงื่อนไขอย่างอื่นยิบย่อยอีกมากมาย ลองอ่านได้จากที่นี่เลยค่ะ https://samurai-law.com/thai/sub08.html)
รายได้ประจำปีขั้นต่ำของการขอวีซ่าถาวรคือ 3ปีย้อนหลังต้องมีรายได้มากกว่า3ล้านเยนทุกปีค่ะ
และถ้าส่งเงินให้ทางบ้าน(ทำเรื่องลดหย่อนภาษี)จะต้องบวกเพิ่มคนละ5แสนเยน จากที่คุยกับทางสำนักงานทนายหลายเจ้า เค้าบอกว่าสัก4-5ปีก่อนนั้นยังไม่ซีเรียสขนาดนี้
ได้2ล้านปลายๆถ้ามีเหตุผลพอเค้าก็ออกให้ แต่2ปีที่ผ่านมานั้นเข้มงวดมากขึ้น บางเคสเกิน3ล้านเยนมา2ปีแต่มีปี1ได้2ล้าน9แสนก็ไม่ผ่าน เพราะฉะนั้นสำนักงานทนายความหลายแห่งจะไม่รับลูกค้าที่รายได้ไม่ถึง3ล้านเยนทั้ง3ปีค่ะ
รอบแรกที่เราไปปรึกษาสำนักงานทนายนั้น รายได้ปีนึงของเราไม่ถึง3ล้านเยน ก็โดนปฏิเสธไป
สุดท้ายเราก็เลยต้องรอเวลาเพื่อให้รายได้ย้อนหลัง3ปีเราเกิน3ล้านเยน และเพื่อความมั่นใจเราก็จ้างสำนักความทนายความช่วยดูเรื่องเอกสารให้ค่ะ ซึ่งเราเตรียมเยอะมาก กะว่าต้องผ่านชัวร์ๆ
จุดนี้เราได้พบสัจธรรมว่าเพื่อนเราที่รายได้เยอะๆ เอกสารเค้าน้อยกว่าเรา แต่วีซ่าเค้าออกไวกว่าเราอีกค่ะ
สิ่งที่เราอยากบอกคือว่า ถ้าเพื่อนๆรายได้เยอะก็ไม่ต้องเครียดเรื่องเอกสารเยอะแยะมากมายให้วุ่นวายค่ะ
ไม่ต้องติดต่อทนายด้วย ยื่นเองเลย!!
สำหรับเอกสารนั้นตามนี้เลยค่ะ
https://www.moj.go.jp/isa/applications/procedures/16-4.html
กลับมาที่เรา นอกจากเอกสารต่างๆทางราชการแล้ว เรายังต้องยื่นใบจบ
ป ตรี ที่ไทย ใบจบเซมมงที่ญี่ปุ่น และใบสอบวัดระดับN1อีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้เราต้องทำพอร์ทรวบรวมผลงานของเรา ไม่ว่าจะเป็นเครดิตหลังEDของอนิเมที่เราทำ ชื่อเครดิตเราตามหนังสือ หรือตามเว็บไซส์ต่างๆ ทั้งหมดทั้งมวลที่มีชื่อเรา
และก็ยังมีรูปถ่าย10ใบ ย้อนหลังระยะเวลา10ปีที่เราใช้ชีวิตในญี่ปุ่น
เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราใช้ชีวิตในญี่ปุ่นได้ดี ทางสำนักงานทนายบอกว่า
ยิ่งมีรูปคู่กับคนดังๆก็จะดี ก็โชคดีที่ด้วยงานเราก็มีโอกาสเจอนักวาดมังงะ
ดังๆ ผู้กำกับดังๆบ้าง
อีกปัญหาที่เราคิดว่ายากสำหรับการขอวีซ่าถาวรคือ ต้องมีคนค้ำประกัน
ที่เป็นคนญี่ปุ่นหรือคนต่างชาติที่มีวีซ่าถาวร และคนๆนั้นต้องจ่ายภาษีครบค่ะ
ตอนแรกเราคิดว่าต้องเป็นคนที่มีหน้าที่การงาน รายได้สูง แต่พอถามทนาย
ทนายบอกว่า ไม่จำเป็น ใครก็ได้ที่จ่ายภาษีครบ
สุดท้ายนี้สิ่งที่เราอยากบอกสำหรับเพื่อนๆที่วางแผนจะขอวีซ่าถาวรคือ 1จ่ายภาษีให้ครบ
2ทำยังไงก็ได้ให้รายได้ประจำปีเกิน3ล้านเยน(3ปี)ค่ะ
3หาคนค้ำประกันให้ได้
เอาจริงๆรอบแรกที่ทางสำนักงานทนายความปฏิเสธไม่เดินเรื่องให้เรา เราช็อคมากเลยค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเราพยายามมาเป็น10ปี ทำไมเราถึงไม่ได้ (ซึ่งตอนนั้นถ้าเราจะดื้อยื่นเองเลยก็คงได้แต่ คิดว่าไม่น่าผ่าน แล้วระยะเวลารอผลก็นาน สู้เอาให้มั่นใจๆเลยดีกว่าค่อยยื่น)
ปีที่แล้วที่เรายื่นเรื่องไปเป็นช่วงที่เปลี่ยนกฏเรื่องเอกสารพอดีค่ะ คือเค้าขอเอกสารด้านทางการเงินจากย้อนหลัง3ปี เป็นย้อนหลัง5ปี เรากลัวว่าเค้าจะเปลี่ยนเป็นรายได้ย้อนหลัง3ปีเกิน3ล้านเยน เป็นรายได้ย้อนหลัง5ปี
เกิน3ล้านเยนมากๆค่ะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเราคงต้องรออีกหลายปีเลยกว่าจะยื่นได้ ซึ่งเราก็ลุ้นมากว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน แต่แล้วก็ผ่านค่าาาา
ทางสำนักงานทนายที่เราใช้บริกาเค้าก็ไปถามทางนิวกังมาค่ะ
เค้าบอกว่ายังใช้เกณฑ์รายได้ย้อนหลัง3ปีเกิน3ล้านเยนอยู่!!!
สำหรับเรื่องการใช้บริการสำนักงานทนายความ หรือสำนักงานจัดการเอกสาร เราคิดว่าจะใช้บริการหรือไม่ใช้ก็ได้ค่ะ แต่ควรจะลองเข้าไปคุยดูก่อน เพราะการคุยรอบแรกส่วนมากจะฟรี เราจะได้รู้ว่าเงื่อนไขขั้นพื่้นฐานเราผ่านไหม หรือขาดอะไรหรือเปล่า
เราสามารถถามข้อมูลอะไรได้เยอะแยะเลยค่ะ จากประสบการณ์ที่เราเข้าไปคุยสำนักงานทนายความประมาณ2-3แห่ง บอกเลยว่าหลังคุยเสร็จเราได้ข้อมูลมากพอที่จะทำเอกสารเองได้ครบเลยค่ะ แต่เนื่องจากคนค้ำประกันของเราเค้าไม่สะดวกใจที่จะยื่นเอกสารส่วนตัวของเค้ากับมือเรา เราจึงต้องใช้บริการสำนักงานจัดการเอกสาร เพื่อให้เค้าติดต่อเรื่องเอกสารกับทางคนค้ำประกันของเราน่ะค่ะ
สำหรับค่าใช้บริการส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณ1แสนเยน(แต่บางที่ก็แพงกว่านี้นิดหน่อย) โดยที่ทางสำนักงานทนายความจะลิตส์เอกสารมาให้เลยว่า ใบไหนขอจากไหน และเขียนใบเหตุผลให้เราด้วยภาษาที่สวยงาม จากนั้นก็ไปยื่นและรับผลแทนเราทั้งหมด
เราไม่ต้องย่างกายเข้าไปนิวกังเลยค่ะ
ส่วนมากหากเราเตรียมเอกสารครบแล้วเองก่อนไปติดต่อ
ราคาจะลดเหลือประมาณ8หมื่นเยนค่ะ
เราไม่แนะนำว่าที่ไหนดีไม่ดีนะคะ เพราะตามความรู้สึกเราคือที่ไหนก็ได้ที่เราเดินทางไปติดต่อสะดวกน่ะค่ะ เราก็เลือกสำนักงานที่ใกล้บ้านเราค่ะ
ทั้งหมดทั้งมวลก็คือสิ่งที่มาจากประสบการณ์เรานะคะ
หากเพื่อนๆมีประสบการณ์หรือเจออะไรมาไม่เหมือนเรา ก็มาเล่าสู่กันฟังแชร์ประสบการณ์กันนะคะ เราเองก็สงสัยว่าเรื่องรายได้เกิน3ล้านย้อนหลัง3ปีนี่มันจริงๆหรือเปล่า มีบางเคส(ภายใน2ปีที่ผ่านมา)ที่ผ่านหรือเปล่า
#หางานในญี่ปุ่น#ทำงานที่ญี่ปุ่น
Average Rating